Program 4: On gazing at the shift from actuality to imagination, and its reversion.
โปรแกรม 4: การจ้องมองไปยังการยกระดับจากความเป็นจริงไปสู่จินตนาการ และการกลับคืนสู่สภาพเดิม

99:00 mins / 99:00 นาที
______

Chris Kennedy (Canada/Australia)
Go Between, 2024
6.48 mins

Looking down at the Brisbane River–a play of masking and superimpositions. Sound by Samuel La France. Made in residency at Container, Brisbane and nanolab, Daylesford

คริส เคนเนดี้ (แคนาดา/ออสเตรเลีย)
Go Between, 2567
6.48 นาที

มองออกไปที่แม่น้ำบริสเบน เล่นกับเสียงที่ถูกกลบและการซ้อนทับของภาพพริ้วไหว เสียงโดย ซามูเอล เลอ ฟรานส์ จัดทำในโครงการศิลปินพำนัก คอนเทนเนอร์ เมืองบริสเบน และ นาโนแลป เมืองเดย์เลสฟอร์ด

______

Xiao Zhang (USA; China)
A throwing forth, 2023
6.04 mins

A time remnant inhabits a personal space with a secret, private, unspoken word of one's being. Sliding planes of window and time, throwing drifts of the inner and the outer self, the film seeks in the interval of memory for a transitory reunion with my family.

เสี่ยว จาง (สหรัฐอเมริกา จีน)
A throwing forth, 2566
6.04 mins

เศษเสี้ยวของเวลาล่องลอยอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว ด้วยคำของตัวตนที่เป็นความลับ เป็นส่วนตัว และเอ่ยออกมาไม่ได้ กรอบรางหน้าต่างและห้วงเวลา ขว้างปาตัวตนภายในและภายนอกออกไป ภาพยนตร์เรื่องนี้มองหาช่วงเวลาระหว่างความทรงจำเพื่อหวนกลับไปพบครอบครัวของตัวฉันอีกครั้ง

______

Philip Widmann (Germany)
What Fog?, 2024
29.11 mins

A fog clears, revealing new forms of camouflage. Techniques for its dispersal aim to restore perception of space – yet it does not disappear, it changes location. Inspired by a triumphalist statement from the West German Federal Railway, WHAT FOG? apprehends ideals of unobstructed vision and boundless locomotion as forms of unreliable technological determinism.

ฟิลิป วิดมันน์ (เยอรมนี)
What Fog?, 2567
29.11 นาที

เมื่อหมอกจางหาย เผยให้เห็นการพรางตัวแบบใหม่ เทคนิคการกระจายหมอกออกไปมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้พื้นที่ที่ต่างไป แต่ที่จริงหมอกนั้นไม่ได้จางไปไหน แค่เปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้ง ภาพยนตร์สารคดีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคำประกาศชัยชนะของทางรถไฟแห่งสหพันธ์เยอรมนีตะวันตก WHAT FOG? ทำความเข้าใจต่ออุดมคติแห่งการมองไกลแบบไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นและการเคลื่อนที่ไปสุดสายตา รูปแบบของโชคชะตาทางเทคโนโลยีที่เชื่อถือไม่ได้

______

Park Kyujae (South Korea)
Buseok, 2024
17.40 mins

A man searches for memories of his family’s past, alternating between Geomeunyeo, Buseok Temple, and his grandmother’s house, all of which are located along a straight line on the map. Geomeunyeo is a rock located in the reclaimed area of Buseok, Seosan, South Korea. It was originally a reef that was exposed above sea level, but is now above ground. The name of Buseok, which means floating rock, is said to be derived from Geomeunyeo.

พัค คยูแจ (เกาหลีใต้)
Buseok, 2567
17.40 นาที

ชายผู้ออกค้นหาความทรงจำในอดีตเกี่ยวกับครอบครัวตัวเอง สลับไปมาระหว่างกอมึนยอ วัดบูซอก และบ้านยายของเขา ทั้งสามที่ที่เรียงเป็นเส้นตรงบนแผนที่ กอมึนยอเป็นโขดหินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ถมทะเลของวัดบูซอก ในเมืองซอซัน เกาหลีใต้ แต่ก่อนเป็นแนวประการังที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำทะเล แต่ตอนนี้ขึ้นมาอยู่เหนือพื้นดิน ชื่อของวัดบูซอกแปลว่า หินลอยน้ำ เชื่อกันว่ามาจากกอมึนยอ
______

Neritan Zinxhiria (Greece)
Light of Light, 2023
12.55 mins

Before his death in 1932, a monk created his own camera in one of the most isolated places in the world. 90 years later, a filmmaker discovers and reconstructs the found footage.

เนริทัน ซินซีห์เรีย (กรีซ)
Light of Light, 2566
12.55 นาที

พระภิกษุรูปหนึ่งได้สร้างกล้องถ่ายภาพของตัวเองขึ้นมา ณ สถานที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ก่อนที่จะเสียชีวิตไปในปีพ.ศ. 2475 อีก 90 ปีต่อมา ผู้สร้างภาพยนตร์ได้ค้นพบกล้องนั้นและประกอบสร้างภาพฟุตเทจที่เหล่านั้นขึ้นมาใหม่

______

Chiemi Shimada (UK, Japan)
mmm, 2023
7.07 mins

mmm is an eclectic collection of the clouds of Japanese cinema from the 1920s to the present. Drawing inspiration from the 35mm film materials of Japanese physicist and cloud expert Masanao Abe (1891-1966) and the apprehension of a possible cloudless sky scenario in the future as speculated in the work of scientist Tapio Schneider, mmm looks at the formlessness as an essential actor in the history of cinema.

ชิเอมิ ชิมาดะ (สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น)
mmm, 2566
7.07 นาที

mmm คอลเลกชันรวบรวมภาพการปรากฏของเมฆที่อยู่ในภาพยนตร์ญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1920 ถึงปัจจุบัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากฟิล์ม 35 มม. ของนักฟิสิกส์และผู้เชี่ยวชาญด้านเมฆชาวญี่ปุ่น มาซานาโอะ อาเบะ (1891-1966) ด้วยความเข้าใจถึงความเป็นไปได้ต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นยามที่ท้องฟ้าไม่มีเมฆปรากฏ ตามที่ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ ทาปิโอ ชไนเดอร์ ได้คาดการณ์ไว้ mmm มองว่าความไร้รูปร่างนั้นก็มีฐานะเป็นนักแสดงสำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

______

Karel De Cock (Belgium)
Benevolence, 2024
14.02 mins

Benevolence is a flicker film exploring gender dynamics in classic Hollywood cinema. Through a choreography of 7-frame segments, it critiques how male-female interactions are depicted, challenging enduring cinematic conventions. The movement of the film unfolds like a love scene: starting with a seemingly innocent chase, it progresses into violence and ultimately culminates in an overwhelming display of love and submission.

The film constructs a choreography using the mise-en-scène typical of classic Hollywood films from the 40s and 50s. Shots are divided into segments of 7 frames and interwoven with one another, creating a choreography of movement, a dance. By doing this, the film reveals the conventions in the ways men and women interact with each other in physical space. In doing so, the film not only questions the normative framework of that time but also challenges the cinematic conventions of today, as many of them are still in use.

คาเรล เดอ ค็อก (เบลเยียม)
Benevolence, 2567
14.02 นาที

Benevolence ภาพยนตร์ที่พาไปสำรวจพลวัตเรื่องเพศในภาพยนตร์ฮอลลีวูดคลาสสิก ด้วยการออกแบบท่าเต้นทั้งหมด 7 เฟรม เพื่อวิพากษ์วิจารณ์การปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง และท้าทายต่อขนบเดิมของภาพยนตร์ การเคลื่อนไหวในภาพยนตร์นั้นเป็นไปราวกับฉากเลิฟซีน เริ่มต้นจากการเกี้ยวพาราสีที่ดูไร้เดียงสา ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความรุนแรง และถึงจุดสุดยอดด้วยการแสดงความรักและการยอมจำนนอย่างเอ่อล้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้การจัดฉากตามแบบฉบับภาพยนตร์ฮอลลีวูดคลาสสิกในยุค 40 และ 50 โดยแบ่งภาพออกเป็น 7 เฟรมและประกอบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นการออกแบบท่าเต้น การเคลื่อนไหว และการระบำ จะทำอย่างนี้ได้ ภาพยนตร์เผยให้เห็นถึงขนบเดิมที่ชายและหญิงมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันผ่านพื้นที่ทางกายภาพ การทำแบบนี้ทำให้ภาพยนตร์ไม่เพียงเป็นการตั้งคำถามต่อกรอบแนวคิดของยุคนั้นเท่านั้น แต่ยังได้ท้าทายขนบธรรมเนียมของภาพยนตร์ในปัจจุบันอีกด้วย แนวทางแบบที่มีคนจำนวนมากยังปฏิบัติกันอยู่

______

Helena Gouveia Monteiro (Ireland)
SKINFLICKER, 2024
5 mins

SKINFLICKER blends hand processed super8 footage with a digital editing technique that extracts and arbitrarily shuffles each frame of the film.
Super8 and digital, b&w, sound, 5min., 2024
Editing-Coding: Tewson Seeoun
Music: Capall bán fút, bodhrán piece by Rónán Ó Snodaigh

เฮเลน่า กูเวีย มอนเตโร (ไอร์แลนด์)
SKINFLICKER, 2567
5 นาที

SKINFLICKER ผสมผสานฟุตเทจจากกล้อง Super8 ที่ล้างฟิล์มด้วยมือ เข้ากับเทคนิคการตัดต่อดิจิทัลที่แยกและเปลี่ยนแต่ละเฟรมของภาพยนตร์แบบตามใจ

กล้อง Super8 และกล้องดิจิทัล ฟิล์มขาวดำ เสียง 5 นาที, 2567
ตัดต่อ-เขียนโค้ด : ทิวสัน สีอุ่น
ทำนอง: Capall bán fút, ผลงาน bodhrán โดย Rónán Ó Snodaigh

back to top

BEEF7 SCHEDULE